เมนู

ว่าด้วยอัสสสตวาทะ 3



[87] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ยังมีอีกข้อหนึ่ง ซึ่งเป็นธรรม
ที่เยี่ยม คือพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงธรรมในฝ่ายสัสสตวาทะ. สัสสต-
วาทะ 3 เหล่านี้ คือ
1. สมณะหรือพราหมณ์บางคนในโลกนี้ อาศัยความเพียรเครื่อง
เผากิเลส อาศัยความเพียรที่ตั้งมั่น อาศัยความประกอบเนือง ๆ อาศัย
ความไม่ประมาท อาศัยมนสิการโดยชอบ แล้วบรรลุเจโตสมาธิ ที่เมื่อ
จิตตั้งมั่นแล้ว ย่อมความระลึกถึงขันธ์ที่เคยอาศัยอยู่ในกาลก่อนได้หลาย
ประการ คือตามระลึกชาติได้ หนึ่งชาติบ้าง สองชาติบ้าง สามชาติ
บ้าง สี่ชาติบ้าง ห้าชาติบ้าง สิบชาติบ้าง ยี่สิบชาติบ้าง สามสิบชาติ
บ้าง สี่สิบชาติบ้าง ห้าสิบชาติบ้าง ร้อยชาติบ้าง พันชาติบ้าง แสนชาติบ้าง
หลายร้อยชาติบ้าง หลายพันชาติบ้าง หลายแสนชาติบ้างว่า ในภพโน้น
เรามีชื่ออย่างนั้น มีโคตรอย่างนั้น มีผิวพรรณอย่างนั้น มีอาหารอย่างนั้น
เสวยสุขเสวยทุกข์อย่างนั้น ๆ มีกำหนดอายุเพียงเท่านั้น ครั้นจุติจากภพ
นั้นแล้ว ได้ไปเกิดในภพโน้น แม้ในภพนั้น เราก็ได้มีชื่ออย่างนั้น มี
โคตรอย่างนั้น มีผิวพรรณอย่างนั้น มีอาหารอย่างนั้น เสวยสุขเสวยทุกข์
อย่างนั้น ๆ มีกำหนดอายุเพียงเท่านั้น ครั้นจุติจากภพนั้นแล้ว ได้มา
บังเกิดในภพนี้. ย่อมตามระลึกถึงขันธ์ที่เคยอาศัยอยู่ในกาลก่อนได้หลาย
ประการ พร้อมทั้งอาการ พร้อมทั้งอุเทศ ด้วยประการฉะนี้ เขากล่าว
อย่างนี้ว่า ข้าพเจ้ารู้จักกาลที่เป็นอดีตได้ว่า โลกพินาศแล้ว หรือเจริญขึ้น
แล้ว. อนึ่ง ข้าพเจ้ารู้จักกาลที่เป็นอนาคตได้ว่า โลกจักพินาศ หรือจัก
เจริญขึ้น. อัตตาและโลกเที่ยงคงที่ ตั้งมั่นดุจยอดภูเขา ตั้งมั่นดุจเสาระ-
เนียด ส่วนเหล่าสัตว์นั้นย่อมแล่นไป ย่อมท่องเที่ยวไป ย่อมจุติ ย่อมเกิด